ปัจจุบันการขายของออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ทั้งในแง่ของผู้คนที่หันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการค้าขายสินค้า และพฤติกรรมของผู้ซื้อที่ค่อย ๆ เปลี่ยนจากการซื้อสินค้าตามแหล่งช้อปปิ้งต่าง ๆ มาเป็นการสั่งซื้อผ่านร้านค้าใน Social Media หรือแอปพลิเคชั่น บนมือถือที่ง่าย สะดวก และประหยัดเวลามากกว่า ซึ่งทำให้หลาย ๆ คนสนใจที่อยากจะขายของออนไลน์เป็นอาชีพเสริม หรือบางคนอยากทำเป็นอาชีพหลัก ดังนั้น การเตรียมความพร้อม และวางกลยุทธ์ให้กับร้านค้า จึงเป็นเรื่องสำคัญขั้นพื้นฐานที่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์มือใหม่ต้องทำความใส่ใจเป็นพิเศษ ซึ่งในวันนี้เราก็มี 4 วิธีการขายของออนไลน์ยังไงให้ปัง สร้างยอดขายแบบไม่มีตก มาฝากกันค่ะ

4 วิธีการขายของออนไลน์ยังไงให้ปัง

วางแผนการตลาด

การจะทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไร ก็มีความเสี่ยงสูงว่าอาจจะไปไม่รอดได้เหมือนกัน ซึ่งขั้นตอนแรกในการจะทำธุรกิจ คือ การวางแผน โดยจะต้องเริ่มจากสิ่งดังต่อไปนี้

  • ตั้งชื่อแบรนด์ ควรใช้ชื่อที่กระชับ จดจำได้ง่าย เป็นเอกลักษณ์ และไม่ซ้ำกับคนอื่น วิธีการตรวจสอบชื่อแบรนด์ว่าซ้ำกับคนอื่นหรือไม่ เราอาจนำชื่อที่คิดได้มาลองค้นหาบน Google Search, Facebook หรือ Instragram ดูก่อนก็ได้
  • ค้นหากลุ่มลูกค้า จะช่วยให้เราสามารถทำการตลาดออนไลน์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านของการทำคอนเทนต์ ทำโฆษณา รวมถึงแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการให้บริการ โดยสิ่งที่ต้องค้นหาก็คือ ลูกค้าของเราเป็นใคร, ลูกค้าของเราอยู่ที่ไหน หรือลูกค้าของเรามีพฤติกรรมแบบไหน กำลังสนใจเรื่องอะไรอยู่
  • ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน การเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ แบบไม่มีการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ก็มักจะเริ่มท้อ ขี้เกียจ และล้มเลิกไป ดังนั้น สำหรับการขายของออนไลน์ คุณอาจจะเริ่มตั้งเป้าหมายจากง่าย ๆ ก่อน เช่น มีจำนวนการสั่งซื้อ 10 ออเดอร์ ต่อวัน, มียอดขาย 15,000 บาท ต่อเดือน, มีคนติดตาม Facebook 5,000 คน เป็นต้น

ช่องทางการโปรโมท 

การขายของออนไลน์ สิ่งสำคัญ คือ การเลือกช่องทางการขายสินค้า ซึ่งความจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะขายเฉพาะช่องทางไหน เพราะแต่ละช่องทางก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้

  • Social Media อย่าง Facebook และ Instagram จุดเด่นจะอยู่ที่การเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย สามารถพูดคุย จัดกิจกรรม และมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดี ช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ได้ดี สำหรับร้านค้าที่พึ่งเปิดเพจใหม่ๆ อาจช่วยให้คนรอบตัวกด Like เพจ หรือช่วยกันแชร์ให้ร้านค้าเป็นที่รู้จักได้ หากมีต้นทุนก็สามารถลงโฆษณาเพื่อโปรโมทร้านค้าได้เช่นกัน
  • Marketplace อย่าง Shopee หรือ LAZADA เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ให้เราสามารถเข้าไปสร้างโปรไฟล์ร้านค้า และนำสินค้าไปลงขายได้ เป็นช่องทางที่นักช้อปมากมายเข้ามาค้นหาสินค้าที่ตัวเองต้องการ และเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ ร้านก่อนซื้อ ทำให้มีการแข่งขันเรื่องราคาค่อนข้างมาก แต่ถ้าร้านไหนที่มีรีวิวเยอะ และดี ก็สามารถสร้างรายได้จากตรงนี้ได้อย่างต่อเนื่อง
  • Website ถ้าหากร้านค้าของคุณมีเว็บไซต์ด้วย ก็จะช่วยให้ร้านสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มาจาก Google Search ได้ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะมีคุณภาพค่อนข้างมาก เพราะคนที่ค้นหาข้อมูล หรือสินค้าบางอย่าง โดยส่วนใหญ่จะมีความต้องการสินค้านั้นอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเราสามารถทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับในหน้าแรกของ Google ร้านค้าของคุณก็จะมีคนเข้ามาซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง และระยะยาว
  • LINE Official Account เป็น Social Media อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งการใช้ LINE OA เพื่อพูดคุยให้ข้อมูลกับลูกค้าโดยเฉพาะ ซึ่งการทักเข้ามาสอบถามใน LINE OA มีโอกาสปิดการขายได้มากกว่า Facebook Messenger ถึง 70% และตอนนี้เราก็สามารถลงสินค้าผ่าน LINE My Shop ได้อีกด้วย เมื่อลูกค้าสนใจสินค้าเราสามารถส่งลิงก์นี้ให้ลูกค้ากดซื้อ และชำระเงินได้ทันที

ช่องทางการชำระเงิน

ช่องทางการรับชำระเงินออนไลน์ ร้านค้าออนไลน์หลายแบรนด์อาจเริ่มต้นจากการใช้บัญชีธนาคารในการรับเงิน แต่ถ้าจะให้ดี หากร้านค้าสามารถรับชำระเงินออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตได้ ร้านของคุณจะมีโอกาสปิดการขาดเพิ่มขึ้นอีก 30% เลยทีเดียว ซึ่งการรับชำระด้วยบัตรเครดิตนั้นสามารถทำได้โดยใช้บริการ Payment Gateway ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ของธนาคาร K-Payment Gateway ของธนาคารกสิกร และไม่ใช่ของธนาคาร Paypal, GB Prime Pay ซึ่งการมีสิ่งเหล่านี้มีโอกาสปิดการขาย และจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

วัดผลลัพธ์

การทำธุรกิจทุกประเภทหากต้องการให้ประสบความสำเร็จ คุณต้องรู้จักการวัดผลลัพธ์ด้วย เพื่อให้เรารู้ว่าเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ตั้งแต่ต้นนั้น เราทำสำเร็จ หรือใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ ตัวอย่างเช่น เป้าหมาย คือ มีคนเข้ามาดูเว็บไซต์ 5,000 คนต่อเดือน, ผลลัพธ์ คือ เดือนทีแล้วมีคนเข้ามาดู 50 คน, แนวทางการปรับปรุง ลองเขียนคอนเทนต์ที่น่าสนใจ โดยใช้ Keyword ที่มีปริมาณการค้นหา หรือ โฟกัสที่การทำ SEO ให้มากขึ้น โดยการวัดผลลัพธ์นั้นช่วยให้เรารู้ว่าจุดบ้างไหนที่เราควรปรับปรุง เพื่อที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายนั้นให้ได้

สรุป

การขายของออนไลน์ให้ปัง ยอดไม่มีตก ต้องมีการวางแผน การโปรโมท มีช่องทางการชำระเงิน และวัดผลลัพธ์ เพื่อให้รู้ว่าเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ตั้งแต่ต้นนั้น เราทำสำเร็จ หรือใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ ทั้งนี้การขายของออนไลน์ต้องมีความอดทน และมีความขยัน ซึ่งทั้ง 4 วิธีที่เรานำมาฝาก พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสม กับธุรกิจร้านค้าของคุณได้เลยค่ะ

เกี่ยวกับ MIW Group
บริษัท เอ็ม.ไอ.ดับบลิว. กรุ๊ป จำกัด รับผลิตสื่อ สิ่งพิมพ์ครบวงจรทั้ง Digital & Offset ด้วยคุณภาพที่ได้รับมาตรฐานระดับเหรียญทอง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานมากกว่า 28 ปี ซึ่งเรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาทักษะด้านการพิมพ์ และรักษามาตรฐานมาโดยตลอด มั่นใจได้ว่าเรามีความพร้อมในการผลิตงานพิมพ์ที่มีคุณภาพส่งมอบให้กับลูกค้าอย่างแน่นอน