ไหนใครได้ชื่อว่าเป็นพนักงานออฟฟิศกันบ้าง? แล้วเคยสังเกตตัวเองไหมว่า ทำไมตั้งแต่เป็นพนักงานออฟฟิศแล้วน้ำหนักดูจะขึ้นเรื่อยๆ แถมบางครั้งก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลยสักนิด ซึ่งหากลองมาคิดดูดีๆ แล้ว สาเหตุของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอาจมาจากการกินทั้งวัน กินตลอดเวลา กินจุกกินจิก อย่างที่รู้กันดีว่าการทำงานในออฟฟิศก็คือการทำงานที่ต้องนั่งอยู่กับที่ทั้งวัน ต้องใช้ทั้งพลังกายและพลังสมองในการทำงาน ทำให้หิวง่ายหรือหิวตลอดเวลาเพราะเสียพลังงานไปเยอะนั่นเอง เป็นเหตุให้กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม น้ำหนักขึ้น อ้วนง่าย

แต่ไม่ต้องกังวลไป M.I.W. Group เข้าใจหัวอกชาวออฟฟิศดี วันนี้เราจึงมี 5 วิธีทำงานออฟฟิศแบบไม่ให้อ้วนมาแนะนำ เป็น 5 วิธีง่ายๆ ที่ชาวออฟฟิศทุกคนทำตามกันได้แน่นอน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

1. งดของหวาน น้ำอัดลม

ทำงานเหนื่อยๆ ใช้สมองเยอะๆ ร่างกายก็ต้องการน้ำตาล หิวแต่อะไรหวานๆ จำพวกขนมนมเนย น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีรสหวาน เช่น ชานมหรือชาไข่มุก ของพวกนี้นี่แหละเป็นตัวการที่ทำให้น้ำหนักชาวออฟฟิศค่อยๆ เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทางที่ดีควรงดของหวานๆ แล้วเลือกกินของกินเล่นที่ไม่มีน้ำตาล และดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมจะดีที่สุด

 

2. ขยับร่างกายให้มากขึ้น

สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศแล้ว โต๊ะทำงานก็เหมือนเพื่อนคู่ใจที่ตัวติดกันแทบจะตลอดทั้งวัน บางครั้งก็มัวแต่ทำงานจนไม่ได้ลุกเดินหรือขยับตัวไปไหน ทำให้ร่างกายไม่ได้เผาผลาญพลังงานเท่าที่ควร แบบนี้ไม่มีทางหุ่นดีได้แน่ๆ ลองเปลี่ยนมายืดเส้นยืดสาย ลุกเดินไปนู่นมานี่ หรือเปลี่ยนมาขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ดูบ้าง เท่านี้ก็ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้แล้ว

 

3. ไม่เก็บขนมไว้ที่โต๊ะทำงาน

ภัยอันตรายอีกอย่างของชาวออฟฟิศก็คือขนม ของกินจุกกินจิกทั้งหลายที่ชาวออฟฟิศมักจะเอามาวางไว้บนโต๊ะทำงาน สามารถหยิบกินได้ตลอดเวลา และเพราะความสะดวกแบบนี้แหละที่ทำให้หนุ่มสาวออฟฟิศเผลอตัวเผลอใจ กินไปทำงานไปแบบเพลินๆ จนน้ำหนักขึ้น ทางที่ดีคือเอาออกไปให้หมด ไม่ว่าจะเป็นของหวาน น้ำอัดลม หรือขนมทุกชนิด ตัดใจให้ได้แล้วหุ่นจะดีขึ้นแน่นอน

 

4. เลือกกินให้มากขึ้น

หากอยากลดน้ำหนัก การเลือกกินก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ โดยเลือกกินของที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะผัก หรืออาหารประเภทต้ม นึ่ง และควรงดของทอด ของมัน เพราะจะทำให้ปริมาณไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้นได้ เป็นเหตุทำให้อ้วน และควรเลือกทานเนื้อสัตว์แบบไม่ติดมันจะดีที่สุด

 

5. เน้นผลไม้ที่มีรสหวานน้อย

นอกจากจะต้องเน้นให้มีผักในทุกเมนูที่กินแล้ว ยังต้องไม่ลืมกินผลไม้ โดยเลือกกินผลไม้ที่ไม่มีรสหวาน หรือผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลน้อย นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังช่วยให้รู้สึกสดชื่น มีแรงทำงานมากขึ้น แถมยังสามารถกินเป็นของว่างแทนขนมหรือของหวานได้ด้วย แต่ควรเลี่ยงผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง และควรกินให้ได้ในปริมาณที่พอดีกับที่ร่างกายต้องการ

 

ขอบคุณที่มา : freepik.com