การซื้อของในปัจจุบัน สามารถซื้อได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว เพราะมีอินเตอร์ที่เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องไปธนาคาร และสามารถใช้ Internet Banking หรือธนาคารออนไลน์สำหรับทำธุรกรรมทางการเงินผ่านคอมพิวเตอร์ หรือมือถือได้
แต่ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยและระมัดระวังในการใช้งานอยู่เสมอ เพราะในโลกออนไลน์มีพวกมิจฉาชีพอยู่มากมาย แต่การทำธุรกรรมออนไลน์ให้ปลอดภัยควรทำอย่างไร ไปดูกันเลย !
1. ซื้อของออนไลน์จากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ
การซื้อของออนไลน์จากเว็บไซต์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัย ควรมีอักษร “s” หลังคำว่า “http” ในที่อยู่ของหน้าเว็บหรือ URL ของร้านค้าออนไลน์ที่เรากำลังเข้าชม ซึ่งการมีตัว S เป็นการบ่งบอกว่าเว็บนั้นจะเก็บการดำเนินการใด ๆ รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยจะไม่มีบุคคลอื่นเข้าถึงข้อมูลได้
2. ตรวจสอบรายละเอียดสินค้าและเลขบัญชีธนาคารก่อนชำระเงิน
การตรวจสอบรายละเอียดสินค้าที่สั่งซื้อ และจำนวนเงินที่จะชำระให้กับร้าน ถือเป็นการลดความผิดพลาดในการชำระเงินได้ และที่สำคัญก่อนจะชำระเงินต้องตรวจสอบเลขบัญชีธนาคาร ชื่อเจ้าของบัญชีว่าตรงกับที่เจ้าของร้านให้มาหรือไม่ และเมื่อตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ให้ตรวจสอบจำนวนเงินก่อนชำระอีกครั้ง เพื่อความถูกต้อง
3. ใช้บริการ SMS
การใช้งาน Internet Banking เราควรสมัครใช้บริการ SMS เพื่อไว้ส่งข้อมูลแจ้งเตือนหลังจากทำธุรกรรมเสร็จแล้ว เพราะถือเป็นการตรวจสอบการทำรายการ หรืออาจแจ้งการใช้งานผ่านอีเมลก็ได้ ทั้งนี้ในกรณีถูกมิจฉาขโมยข้อมูลไปแล้วมีการถอนเงิน ก็จะทำให้เรารู้ทันทีว่าเกิดความผิดปกติ สามารถทำการตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว
4. จำกัดวงเงินในการโอนและถอนให้เหมาะสม
การจำกัดวงเงิน ถือเป็นการป้องกันในกรณีถูกมิจฉาขโมยข้อมูลไป จะทำให้เงินในบัญชีเราไม่หายไปทั้งหมด เพราะเราได้จำกัดวงเงินทั้งการโอน และถอนไว้แล้ว
5. เปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ และไม่ใช้รหัสที่ง่ายต่อการคาดเดา
เราไม่ควรใช้รหัสครั้งแรกที่สมัครไป โดยไม่มีการเปลี่ยนเลย และที่สำคัญไม่ใช้รหัสที่ง่ายต่อการคาดเดา อย่างเช่น เลขวันเดือนปีเกิด เลขท้ายบัตรประชานชน เป็นต้น การเปลี่ยนรหัสผ่าน หรือใส่รหัสให้ยุ่งยาก สามารถลดความเสี่ยงจากการถูกขโมยข้อมูลได้ ทั้งนี้เวลาเข้าเว็บ เมื่อพิมพ์รหัสผ่านเสร็จแล้ว อย่าให้เครื่องจำรหัสผ่าน ควรพิมพ์ใหม่ทุกครั้งจะปลอดภัยกว่า
6. อัพเดตอุปกรณ์อยู่สม่ำเสมอ
การอัพเดตอุปกรณ์ เป็นการลบช่องว่างที่จะเปิดโอกาสให้กับมิจฉาชีพ หรือพวกไวรัสเข้ามาในโทรศัพท์ได้ เพราะส่วนใหญ่เรามักจะช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านทางโทรศัพท์ แต่ก็มีอีกหลายส่วนที่ใช้คอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ค เราก็ควรต้องมีตัวสแกนไวรัสด้วย และควรหมั่นสแกนไวรัสบ่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพเจาะเข้าถึงข้อมูลทางการเงินได้ลำบากมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้การช้อปออนไลน์จะสะดวก และประหยัดเวลา เพราะสามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา แต่ก็อย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยการทำธุรกรรมออนไลน์ ซึ่งเราได้บอกไปข้างต้นแล้ว ถ้าเราใช้อย่างระมัดระวังการช้อปออนไลน์ และการทำธุรกรรมออนไลน์ก็จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ที่มา : www.marketingoops.com, www.krungsri.com และ today.line.me