ฤดูฝนเป็นฤดูกาลที่เหมาะแก่การปลูกพืชผักต่างๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะปลูกได้ทั้งหมด เพราะพืชผักบางชนิดก็ต้องการน้ำน้อย ไม่เหมาะจะปลูกในหน้าฝน ฉะนั้นการเลือกผักสำหรับปลูกในหน้าฝนจึงควรเลือกให้เหมาะกับฤดูกาล โดยเราได้นำผักทั้ง 10 ชนิดที่เหมาะจะปลูกในหน้าฝนพร้อมทั้งวิธีการปลูกมาแนะนำสำหรับใครที่อยากจะปลูกไว้กินเองที่บ้าน นอกจากจะสดสะอาดแล้วยังสามารถเก็บไว้กินได้ตลอดช่วงหน้าหนาวอีกด้วย
ผัก 10 ชนิดที่เหมาะกับการปลูกในหน้าฝน
1. ผักชี
การปลูกผักชีจะเริ่มจากการนำดินร่วนปนทรายมาผสมกับปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และปูนขาว หากปลูกลงแปลงให้ทำแปลงแบบยกร่องสูงเพื่อให้ดินระบายน้ำได้ดี นำเมล็ดมาหมักในน้ำสะเดาหรือเชื้อราไตรโคเดอร์มา ฮาร์เซียนั่มประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำมาหว่านให้ห่างกันแล้วโรยฟางข้าวบดสั้นๆ บนหน้าดิน รดน้ำให้ชุ่ม
2. สะระแหน่
สำหรับสะระแหน่จะนิยมปลูกแบบปักชำ เริ่มจากผสมดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน และทราย 1 ส่วนเข้าด้วยกัน ใส่ปูนขาวลงไปเล็กน้อย เลือกเอากิ่งสะระแหน่ที่ไม่แก่และไม่อ่อนมาปักทาบลงบนหน้าดิน รดน้ำให้พอชุ่ม โรยแกลบทับหน้าดินเล็กน้อย ไม่ควรใส่ปุ๋ยเคมีเพราะจะทำให้ต้นเหี่ยว
3. คะน้า
การปลูกคะน้าจะต้องนำดินไปตากให้แห้งก่อนแล้วจึงนำไปผสมกับปุ๋ยคอก หว่านเมล็ดให้ห่างกันประมาณ 2 – 3 เซนติเมตร จากนั้นใช้ดินกลบให้หนาประมาณ 1 เซนติเมตรแล้วคลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ย
4. กุยช่าย
เตรียมดินโดยยกร่องสูงประมาณ 30 เซนติเมตร – 1 เมตร หากปลูกในกระถางจะต้องพรวนดินและตากดินให้แห้งก่อนใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยมูลสัตว์ นำไปผสมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 คลุกให้เข้ากันเป็นเวลา 3 – 5 วันแล้วจึงหว่านเมล็ดกุยช่ายลงไป คลุมทับด้วยฟางข้าวหรือแกลบ
5. กวางตุ้ง
วิธีการปลูกคือผสมดินร่วนกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกในอัตรา 2 : 1 ส่วน กดดินลงไปประมาณ 0.5 เซนติเมตร จากนั้นหยอดเมล็ดลงหลุม หลุมละประมาณ 1 – 2 เมล็ด ใช้ดินกลบแล้วรดน้ำให้ชุ่ม และอย่าลืมโรยปูนขาวรอบๆ เพื่อป้องกันมดด้วย
6. ผักบุ้งจีน
การปลูกผักบุ้งจีนจะต้องทำการรดน้ำหน้าดินให้ชุ่มก่อนแล้วจึงหว่านเมล็ดในตอนเย็น นำฟางแห้งมาคลุมทับลงบนดินแล้วรดน้ำให้ชุ่ม ระวังอย่าให้ขาดน้ำหรือมีน้ำขัง และควรทำตาข่ายบังแดดและฝนไว้บริเวณเหนือแปลงหรือกระถางด้วย
7. ผักกาดหอม
การเตรียมดินปลูกผักกาดหอมจะต้องผสมดินกับปุ๋ยคอก ปุ๋ยมูลสัตว์ หรือปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 พรวนให้ดินร่วนซุยเข้ากัน ตากดินให้แห้ง จากนั้นใส่ปูนขาวลงไปแล้วค่อยหว่านเมล็ด โรยทับด้วยดินที่ผสมกับมูลสัตว์ให้ทั่วแล้วรดน้ำ เมื่อโตเป็นต้นกล้าให้ย้ายกระถางปลูก
8. บวบ
ตากดินประมาณ 5 – 7 วันเพื่อให้ดินแห้ง จากนั้นจึงผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดิน ขุดหลุมให้ลึกประมาณ 20 – 25 เซนติเมตร หากดินเป็นกรดให้ผสมปูนขาวลงไป เสร็จแล้วให้หยอดเมล็ดลงหลุม กลบด้วยดินร่วนหรือปุ๋ยคอก รดน้ำให้ชุ่ม และอย่าลืมทำไม้ค้ำให้บวบเลื้อยไปเกาะได้ด้วย
9. มะเขือเทศ
ตากดินให้แห้งประมาณ 7 – 10 วันแล้วนำไปผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก จากนั้นหว่านเมล็ดแล้วกลบทับด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เมื่อต้นกล้าโตได้ประมาณ 30 วันให้ย้ายกระถางปลูก โดยจะต้องย้ายในช่วงบ่ายถึงเย็น และต้องให้มีดินติดที่รากต้นกล้ามากที่สุด เมื่อย้ายเสร็จให้รีบรดน้ำทันที
10. หอมแดง
การปลูกหอมแดงก็เช่นเดียวกัน ก่อนปลูกจะต้องตากดินให้แห้งประมาณ 2 – 3 วัน เสร็จแล้วพรวนดินให้ร่วนซุย ผสมปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยมูลสัตว์ลงไปแล้วคลุกให้เข้ากัน โรยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 แล้วรดน้ำ นำหัวหอมที่เล็มรากและทำความสะอาดแล้วมาปักลงในดินโดยให้เหลือพ้นดินไว้ครึ่งหัว คลุมทับด้วยหญ้าหรือฟางแล้วรดน้ำ
ข้อมูล : https://home.kapook.com/view193064.html
