แสงเหนือ หรือ แสงออโรร่า เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่จะมีแสงเป็นริ้ว พริ้วไหวอยู่บนท้องฟ้า เรืองรองบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน พบได้ในแถบขั้วโลกเหนือ และใต้ ซึ่งแสงเหนือ เกิดจากการชนกันระหว่างก๊าซในชั้นบรรยากาศโลก และอนุภาคไฟฟ้าที่มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดลำแสงสีต่าง ๆ ทั้งสีเขียว สีฟ้า สีชมพู สีแดง สีเหลือง หรือสีม่วงก็มี ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่จะมองเห็นได้ง่ายในช่วงที่ท้องฟ้ามืดสนิท หรือในช่วงฤดูหนาวที่กลางคืนยาวนานเป็นพิเศษ ประมาณเดือนกันยายน – เมษายน เวลาประมาณ 18.00 – 02.00 น. ดังนั้น สำหรับใครที่อยากไปท่องเที่ยวดูแสงเหนือล่ะก็ วันนี้เราก็จะมาปักหมุด จุดชมแสงเหนือ มีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ
ปักหมุด จุดชมแสงเหนือ มีที่ไหนบ้างไปดูกัน!
เมืองเรคยาวิก (Reykjavik) ประเทศไอซ์แลนด์ (Iceland)
ประเทศไอซ์แลนด์ จุดชมแสงเหนืออยู่ที่ เมืองเรคยาวิก (Reykjavik) เป็นเมืองหลวงที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด และมีอากาศที่หนาวเย็นที่สุดเช่นเดียวกัน ซึ่งจุดชมแสงเหนือแบบชัด ๆ อยู่แถวประภาคารกรอตต้า (Grótta Lighthouse) บนคาบสมุทรเซลท์ยานาร์เนส (Seltjarnarnes Peninsula) และอุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) ซึ่งไอซ์แลนด์มีช่วงเวลาในการชมแสงเหนือได้ยาวนานถึงปีละ 8 เดือน ตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน – เมษายน
เมืองทรอมโซ (Tromso) ประเทศนอร์เวย์ (Norway)
เมืองทรอมโซ (Tromso) เมืองท่องเที่ยวทางตอนเหนือของประเทศ ที่เป็นหนึ่งในเมืองแห่งแสงเหนือที่ดีที่สุดของนอร์เวย์ เพราะอยู่ท่ามกลางวงแหวนออโรรา (Aurora Oval) พอดี สามารถเห็นแสงเหนือได้เกือบทุกคืนที่ท้องฟ้าโล่ง และที่นี่ยังเหมาะสำหรับคนรักความสงบอีกด้วย ซึ่งนอร์เวย์มีช่วงเวลาในการชมแสงเหนือ ตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน – มีนาคม
อุทยานแห่งชาติอบิสโก (Abisko National Park) ประเทศสวีเดน (Sweden)
ประเทศสวีเดน เป็นหนึ่งในประเทศที่มีแสงเหนือ และเป็นจุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุด สามารถไปชมได้ที่ อุทยานแห่งชาติอบิสโก (Abisko National Park) ตั้งอยู่ในเขตเมืองคิรูน่า (Kiruna) ทางตอนเหนือของสวีเดน ที่นั่นยังอลังการด้วยฉากภูเขา และทะเลสาบ และยังเป็นที่ตั้งของออโรร่าสกายสเตชั่น (Aurora Sky Station) ทั้งนี้ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมกิจกรรมความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า ปีนเขา เล่นสกีหิมะ และนั่งรถลากเลื่อนสุนัขให้ได้ทำกิจกรรมกันอีกด้วย ซึ่งสวีเดนมีช่วงเวลาในการชมแสงเหนือ ตั้งแต่ประมาณต้นเดือนกันยายน – ปลายเดือนมีนาคม
เมืองอิลลูลิแซท (Ilulissat) ประเทศกรีนแลนด์ (Greenland)
เมืองอิลลูลิแซท (Illulissat) เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด และยังเป็นเมืองที่มีจุดชมแสงเหนือที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่น ๆ โดยจะชมแสงเหนือกันที่ทะเลสาบออโรลา (Lake Aurora) ในฤดูหนาว และในช่วงฤดูร้อนจะเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนให้ได้ชมกัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อย่างเช่น ล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็ง นั่งสุนัขลากเลื่อน และพายเรือคายักในแม่น้ำสีฟ้ากลางทะเลน้ำแข็ง ทั้งนี้ที่นี่ยังสามารถชมแสงเหนือได้เกือบทั่วทั้งประเทศอีกด้วย ซึ่งกรีนแลนด์มีช่วงเวลาในการชมแสงเหนือ ตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน – เมษายน
เมืองเยลโลว์ไนฟ์ (Yellowknife) ประเทศแคนาดา (Canada)
เมืองเยลโลว์ไนฟ์ (Yellowknife) เป็นหนึ่งในเมืองล่าแสงเหนือของแคนาดา ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดชมแสงเหนือที่สวยที่สุดในโลก รวมถึงได้รับการขนานนามให้เป็น เมืองหลวงแห่งแสงเหนือของอเมริกาเหนือ (Aurora Capital of North America) อีกด้วย เนื่องจากแสงเหนือที่เมืองเยลโลว์ไนฟ์จะมีเฉดสีที่เด่นชัดกว่าเมืองอื่น ๆ เมื่อประกอบกับทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติรอบด้านแล้ว ก็ยิ่งทวีคูณความสวยขึ้นไปอีก ซึ่งแคนาดามีช่วงเวลาในการชมแสงเหนือ ตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน – เมษายน
เมืองมูร์มันสค์ (Murmansk) ประเทศรัสเซีย (Russia)
เมืองมูร์มันสค์ (Murmansk) เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของรัสเซีย เป็นเมืองที่เงียบสงบ ธรรมชาติสวยงามสุด ๆ โดยจุดชมแสงเหนืออยู่ที่คาบสมุทรโคลา (Kola Peninsula) นอกจากนี้ที่นี่ยังมีฟาร์มสุนัขพันธุ์ฮัสกี้ (Husky Farm) ให้นั่งรถลากเลื่อนอีกด้วย ซึ่งรัสเซียมีช่วงเวลาในการชมแสงเหนือ ตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคม – พฤษภาคม แต่จุดที่พีคสุด ๆ อยู่ที่เดือนกุมภาพันธ์
สรุป
ทั้งหมดก็เป็นประเทศ และเมืองที่สามารถไปชมแสงเหนือได้ ซึ่งแต่ละประเทศ แต่ละเมืองมีแสงเหนือ และธรรมชาติที่สวยงามมาก ๆ และช่วงเวลาที่จะเห็นแสงเหนือได้ ประมาณเดือนกันยายน – เมษายน ดังนั้น สำหรับใครที่วางแผนจะไปเที่ยวชมแสงเหนือ เลือกประเทศ เลือกเมือง เช็คสภาพอากาศ และวางแผนกันให้พร้อม เพื่อไปตามล่าหาแสงเหนือ และมีความสุขกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่คุณจะได้พบค่ะ
เกี่ยวกับ MIW Group
บริษัท เอ็ม.ไอ.ดับบลิว. กรุ๊ป จำกัด รับผลิตสื่อ สิ่งพิมพ์ครบวงจรทั้ง Digital & Offset ด้วยคุณภาพที่ได้รับมาตรฐานระดับเหรียญทอง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานมากกว่า 28 ปี ซึ่งเรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาทักษะด้านการพิมพ์ และรักษามาตรฐานมาโดยตลอด มั่นใจได้ว่าเรามีความพร้อมในการผลิตงานพิมพ์ที่มีคุณภาพส่งมอบให้กับลูกค้าอย่างแน่นอน