การทำกล่องบรรจุภัณฑ์ เป็นตัวช่วยชั้นดีที่จะทำให้แบรนด์ และผลิตภัณฑ์ของคุณได้รับความสนใจจากลูกค้า นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสวยงาม เพิ่มมูลค่าของสินค้ามากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังป้องกันความเสียหายในระหว่างการขนส่งได้อีกด้วย ทั้งนี้สำหรับคนที่กำลังเริ่มทำธุรกิจ และต้องการทำกล่องบรรจุภัณฑ์ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ดังนั้นวันนี้เรามีคำแนะนำการเตรียมข้อมูลกล่องบรรจุภัณฑ์ก่อนติดต่อโรงพิมพ์ มาฝากกันค่ะ

การเตรียมข้อมูลเพื่อผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์

1. การวัดขนาดสินค้า

เริ่มจากการเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เพื่อวัดขนาดสินค้า ได้แก่ กระดาษ ปากกา ไม้บรรทัดหรือสายวัด และเมื่ออุปกรณ์พร้อมแล้ว ก็สามารถวัดขนาดกันได้เลย โดยมีวิธีการวัดขนาดสินค้า ดังนี้

–    นำวัสดุกันกระแทกห่อหุ้มสินค้าก่อน ยกตัวอย่างเช่น สินค้า คือ สบู่ ให้ใส่สบู่ลงในซองพลาสติก ซีลปากถุงก่อน แล้วจึงวัดขนาด แต่ถ้าสินค้าประเภทที่แตกหักได้ง่าย ให้ห่อด้วยพลาสติกกันกระแทก ก่อนวัดขนาด เป็นต้น

–    วัดขนาดความกว้าง ยาว สูง ของสินค้าในหน่วยเซนติเมตร ผลิตภัณฑ์ และสัดส่วนที่ต้องวัดทำกล่อง                  สบู่ สัดส่วนที่ต้องวัดทำกล่อง ได้แก่ ความกว้าง (ซม.) ความยาว (ซม.) และความหนา (ซม.)
หลอดครีม สัดส่วนที่ต้องวัดทำกล่อง ได้แก่ เส้นผ่านศูนย์กลางตรงฝา (ซม.) ความสูง (ซม.) และความกว้างของปีกหลอด (ซม.)
ครีมกระปุกกลม สัดส่วนที่ต้องวัดทำกล่อง ได้แก่ เส้นผ่านศูนย์กลางฝากระปุก (ซม.) ความสูงของกระปุก (ซม.) และเส้นผ่านศูนย์กลางก้นกระปุก (ซม.)
ขวดเซรั่ม สัดส่วนที่ต้องวัดทำกล่อง ได้แก่ เส้นผ่านศูนย์กลางฝา (ซม.) ความสูง (ซม.) และ เส้นผ่านศูนย์กลางตรงก้น (ซม.)

– จดข้อมูล ขนาดกล่อง แล้วแจ้งทางโรงพิมพ์ เพื่อให้โรงพิมพ์ตีราคาในการสั่งผลิตกล่อง

– เมื่อส่งข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งตัวอย่างสินค้าจริงพร้อมวัสดุกันกระแทกที่คุณต้องการใส่ในกล่องไปยังโรงพิมพ์ เพื่อเป็นการตรวจสอบความแม่นยำของขนาดสินค้า และตัวกล่องที่ออกแบบจริง

2. ระบุสีที่ต้องการ

การพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์จะมีตั้งแต่พิมพ์สีเดียวไปจนถึงการพิมพ์ 4 สี ซึ่งการพิมพ์ 4 สี จะทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์สวย ดูดีกว่าการพิมพ์สีเดียว แต่ทั้งนี้การพิมพ์สีที่มากขึ้นก็จะมีราคาที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสีจะแบ่งออกเป็นสองหมวดหลัก ๆ คือ RGB และ CMYK โดยแต่ละหมวดสีก็จะเหมาะกับงานคนละประเภทกัน ดังนั้นจึงควรเลือกสีให้เข้ากับกล่องบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ควรระบุสีให้ชัดเจนทุกส่วนว่าต้องการสีอะไร

3. กระดาษที่จะใช้ทำกล่อง
กระดาษที่ใช้ทำกล่องบรรจุภัณฑ์จะมีหลากหลายประเภท แต่ ที่นิยมใช้กันจะมี 6 ประเภท ดังนี้

–  กระดาษอาร์ตการ์ด
–  กระดาษคราฟสีน้ำตาล
–  กระดาษอาร์ตการ์ดหน้าเดียว
–  กระดาษกล่องแป้งหลังขาว
–  กระดาษกล่องแป้งหลังเทา
–  กระดาษฟู้ดเกรด (ใส่อาหารได้)

ทั้งนี้ก็ควรจะระบุว่าต้องการกระดาษแบบไหนหรือถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหน ก็สามารถปรึกษากับทางโรงพิมพ์ได้ว่าผลิตภัณฑ์แบบนี้ควรใช้กับกระดาษแบบไหนก็ได้เช่นกัน

4. การเพิ่มเทคนิคพิเศษ
การเพิ่มเทคนิคพิเศษก็มีหลากหลายแบบให้ได้เลือกใช้กันหลายวิธี ดังนี้
ปั๊มนูน หรือ ปั๊มจม

– ปั๊มนูน ทำให้ตัวอักษร โลโก้ มีมิติเป็นแบบนูนต่ำ ช่วยเพิ่มความคมชัด และผิวสัมผัสให้กับพื้นผิว

– ปั๊มจม ทำให้ผิวของกระดาษที่มีการปั๊มจมจะลึกลงไปเป็นร่องเหมือนการแกะสลัก หรือประทับตราลงไป แต่จะได้ตัวอักษรหรือรูปภาพที่คมชัด

ปั๊มเคเงิน หรือ เคทอง ทำให้ผิวของสิ่งพิมพ์ที่ปั๊มด้วยฟอยล์มีสีไปเคลือบลงบนพื้นผิว โดยพื้นผิวบริเวณที่ทำการปั๊มจะเป็นมันเงา เพิ่มมูลค่าให้กับตัวอักษรหรือโลโก้ที่อยู่บนงานพิมพ์

Spot UV เป็นการเคลือบเฉพาะจุดที่ช่วยให้เน้นส่วนที่สำคัญ ๆ อย่าง ตัวอักษร รูปภาพ หรือลายกราฟิกต่าง ๆ

การเพิ่มเทคนิคพิเศษ เป็นการช่วยเพิ่มความสวยงาม และความโดดเด่นให้กับกล่องบรรจุภัณฑ์มากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องเลือกให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์ และกล่องบรรจุภัณฑ์ด้วย

ทั้งนี้หากท่านใดกำลังมองหาโรงพิมพ์ที่รับพิมพ์พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ บริษัท เอ็ม.ไอ.ดับบลิว.กรุ๊ป จำกัด ขอเป็นตัวเลือกหนึ่งของท่านค่ะ ทางเรามีบริการออกแบบ และรับพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์สบู่ หลอดครีม ครีมกระปุกกลม ขวดเซรั่ม และกล่องบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ ซึ่งงานพิมพ์ของเรารับรองคุณภาพด้วยเครื่องพิมพ์มาตรฐานระดับโลก สีสันสวยสด คมชัด ไม่ซีดจาง