ช่วงหน้าฝนแบบนี้ น้ำตก ป่า เขา ลำเนาไพร สวยงาม เขียวชอุ่ม ชุ่มฉ่ำ น่าไปเที่ยวเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวหน้าฝนในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ใกล้จะถึงแบบนี้ แต่ไม่อยากไปไกล ไม่ต้องกังวล เพราะวันนี้เราได้นำ 8 พิกัดเที่ยวหน้าฝนชุ่มฉ่ำใจใกล้กรุงเทพฯ มาฝากทุกคนกันค่ะ ถ้าพร้อมเที่ยวแล้ว ก็เก็บกระเป๋าไปเที่ยวกันเลย !
1. เขาช่องลม จังหวัดนครนายก
เขาช่องลม เป็นดินแดนที่มีทั้งภูเขา ป่า ลำธาร และน้ำตกในที่เดียวกัน ซึ่งอยู่ด้านหลังของเขื่อนขุนด่านปราการชล และที่นี่จะนั่งเรือไปที่น้ำตกช่องลม โดยเรือจะจอดให้ลงเที่ยว 1 ชั่วโมง 30 นาที เพราะจะต้องเดินทางเท้าไปที่น้ำตก แต่เส้นทางก็ค่อนข้างที่จะลำบากเล็กน้อย หลังจากที่ไปน้ำตกแล้ว เรือจะพาไปจุดหมายสุดท้ายของที่นี่ นั่นก็คือ ท้ายเขื่อน บริเวณท้ายเขื่อนจะมีพื้นที่โล่งกว้าง และมีทุ่งต้นกก สีเหลืองนวล ๆ ขึ้นอยู่เต็มไปหมด สำหรับใครที่ชอบนั่งเรือชมวิวภูเขา ป่าไม้ และเดินเล่นน้ำตก แนะนำว่าช่วงหน้าฝนแบบนี้ไม่ควรพลาดที่จะมาเที่ยวที่นี่
ที่ตั้ง : ตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก
2. น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี
น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 7 ชั้น แต่ละชั้นมีลักษณะเป็นแอ่งสามารถเล่นน้ำได้ มีธรรมชาติที่สวยงาม น้ำตกใสสะอาด แอ่งน้ำเป็นสีเขียวฟ้าสดใส ร่มรื่นด้วยต้นไม้ โดยเฉพาะชั้น 7 ที่มีน้ำตกที่สวยที่สุด เป็นสายน้ำไหลลงมาจากหน้าผามีลักษณะคล้ายเศียรช้าง 3 เศียร หรือที่เรียกว่า ช้างเอราวัณ จึงเป็นที่มาของชื่อ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ซึ่งการเดินทางพิชิตชั้นน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้น ถึงแม้ว่าระยะทางอาจไม่ไกลมาก แต่ความชันของเส้นทางก็อาจทำให้เหนื่อยได้ไม่น้อย สำหรับใครที่ชอบธรรมชาติ เล่นน้ำตก ห้ามพลาดที่นี่
ที่ตั้ง : ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
3. บ้านตาหรั่ง camping จังหวัดสุพรรณบุรี
บ้านตาหรั่ง camping เป็นบ้านพัก และลานกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน แต่ถ้าใครไม่อยากนอนเต็นท์ ที่นี่ก็มีบ้านพักให้บริการด้วยเช่นกัน ในส่วนของบรรยากาศจะมีความเงียบสงบ ร่มรื่น มีธรรมชาติสวยงาม และสามารถชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ ยิ่งมาช่วงหน้าฝนจะได้บรรยากาศเย็นสบาย ตื่นเช้ามาพบกับหมอกลอยระเรื่ออยู่บนภูเขา นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการพายเรือ ปั่นจักรยานฟรี เล่นน้ำ และตกปลาได้ฟรี สำหรับใครที่อยากสัมผัสธรรมชาติ ชอบความเงียบสงบ เรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด
ที่ตั้ง : ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
4. เขากระโจม จังหวัดราชบุรี
เขากระโจม เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอกที่ได้รับความนิยม แต่การเดินทางจะค่อนข้ายากลำบากพอสมควร แต่เมื่อคุณได้ไปถึงบนจุดชมวิว คุณจะได้ชื่นชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ทั้งของไทยและพม่า ที่ล้อมรอบด้วยป่าไม้นานาชนิด ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี ซึ่งที่นี่เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก และมีลานกว้างสำหรับกางเต็นท์พักแรม มองวิวได้รอบบริเวณอีกด้วย นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ ก็จะมีน้ำตกผาแดง จุดพักชมวิวต่าง ๆ และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่สวยงาม เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาชมความงามของธรรมชาติในช่วงหน้าฝน
ที่ตั้ง : ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
5. ทุ่งโปรงทอง จังหวัดระยอง
ทุ่งโปรงทอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่นอกจากจะเป็นป่าชายเลน แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำขนาดเล็กแล้ว ยังมีความสวยงามของป่าโกงกาง และไม้โปรงที่ขึ้นเขียวขจี ส่งผลให้บริเวณนี้ร่มรื่น เย็นสดชื่น มองดูแล้วสบายตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตก ป่าแห่งนี้จะสะท้อนออกมาเป็นแสงสีทองสวยงามเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ที่นี่จะมีสะพานเดินศึกษาธรรมชาติเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องระบบนิเวศน์ของป่าชายเลน สำหรับใครที่ชอบเที่ยวแนวธรรมชาติ ได้ความรู้ เดินสูดอากาศบริสุทธิ์สบาย ๆ เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด
ที่ตั้ง : ตำบลปากน้ำกระแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
6. เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เขาใหญ่ เป็นที่เที่ยวช่วงหน้าฝนที่ไม่ควรพลาด ที่จะชื่นชมธรรมชาติ ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ และสัตว์ป่านาน ๆ ชนิด และที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จะมีจุดกางเต็นท์ไว้บริการหลายจุดทั่วทั้งอุทยาน สามารถขับรถเที่ยวเองได้ ซึ่งความน่าตื่นเต้นของการขับรถเที่ยวก็คือ การเจอสัตว์ป่าออกมาทักทายนั่นเอง นอกจากนี้เขาใหญ่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวย ๆ มากมาย อย่าง หอดูสัตว์หนองผักชี น้ำตกเหวนรก น้ำตกกองแก้ว อ่างเก็บน้ำสายศร ผากล้วยไม้ น้ำตกเหวสุวัต และจุดชมวิว กม.30 ฯลฯ
ที่ตั้ง : ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
7. ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี
ล่องแก่งหินเพิง เป็นอีกสถานที่ที่เป็นสุดยอดแห่งล่องแก่งอันดับต้น ๆ ของไทย และจะเป็นที่นิยมมากในช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคม-ตุลาคมของทุกปี ซึ่งที่นี่มีลักษณะเป็นแก่งหิน ตอนปลายสุดของแม่น้ำใสใหญ่ เกิดเกาะแก่งต่าง ๆ มากมาย และเส้นทางล่องแก่งที่นี่มีระดับความยากง่ายอยู่ที่ 3 ถึง 5 ระดับ สำหรับการล่องแก่งนั้นจะผ่านแก่งหินต่าง ๆ ได้แก่ แก่งหินเพิง แก่งวังหนามล้อม แก่งวังบอน แก่งลูกเสือ แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า ถ้าใครเป็นสายลุย ๆ ชอบเล่นน้ำ ช่วงหน้าฝนแบบนีกิจกกรมสุดมันส์อย่างการล่องแก่ง ก็เป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
ที่ตั้ง : ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
8. ทุ่งแสลงหลวง จังหวัดเพชรบูรณ์
ทุ่งแสลงหลวง หรือทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งเมืองไทย เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 3 ของประเทศ และเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุ่งหญ้า และพรรณไม้ที่หาชมได้ยากอยู่หลายชนิด ซึ่งในบริเวณ ทุ่งนางพญา จะมีลักษณะเป็นป่าสนที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งในช่วงปลายฤดูฝนต่อถึงฤดูหนาว ทำให้ได้ชมความสวยงามของแสงแดดที่พาดผ่านบริเวณต้นสน เหมาะแก่การนั่งรถชมวิว เดินฟังเสียงนกในป่า และกางเต้นท์สัมผัสธรรมชาติในช่วงหน้าฝนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อย่าง ทุ่งนางพญา สะพานแขวน หรือ แก่งวังน้ำเย็น ฯลฯ
ที่ตั้ง : ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ทั้ง 8 พิกัดเที่ยวหน้าฝนชุ่มฉ่ำใจใกล้กรุงเทพฯ ที่เรานำมาฝาก สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ มีทั้งแบบค้างคืน และแบบไปเช้าเย็นกลับ สำหรับใครชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบไหน ก็สามารถเลือกได้ตามความชอบ ไปเที่ยวเติมพลังให้เต็มที่กันค่ะ แต่เที่ยวช่วงหน้าฝนแบบนี้ ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองกันด้วยนะคะ