สิ่งพิมพ์นามบัตร ถือเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดีกับคู่ค้า และกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ดี อีกทั้งยังเป็นการเปิดกว้างการเชื่อมความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และสร้างโอกาสในการประสบความสำเร็จที่ใหญ่มากขึ้น เนื่องจากนามบัตร เป็นเอกสารแนะนำตัวที่ขนาดเล็ก ที่สามารถใช้ได้กับบุคคล และบริษัทหรือร้านค้า ซึ่งในนามบัตรจะมีข้อมูลสำคัญของบริษัทหรือร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ไลน์ หรือเฟซบุ๊กของบริษัทหรือร้านค้า ที่จะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ ความเป็นทางการ และเปรียบเสมือนตัวแทนบริษัทหรือแบรนด์ของคุณอีกด้วย
ดังนั้น การออกแบบนามบัตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งพิมพ์ที่มีความสำคัญอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ จึงต้องให้ความสำคัญ และใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเมื่อลูกค้าได้เห็น ได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบ รูปแบบการจัดวางตัวอักษร สีสันที่ใช้ ก็จะบ่งบอกได้ถึงตัวตนของแบรนด์ อีกทั้งยังสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้รับนามบัตรนี้ไปได้อีกด้วย ซึ่งในบทความนี้เราก็มี 5 เทคนิคการทำนามบัตร ให้สวยหรู ดูดีมีสไตล์ ไม่ซ้ำใคร มาฝากกันค่ะ
กำหนดคอนเซปต์ให้สอดคล้องกับประเภทธุรกิจ
การกำหนดคอนเซปต์ให้สอดคล้องกับประเภทธุรกิจของบริษัทนั้น ๆ ถือเป็นขั้นตอนแรกของการออกแบบนามบัตรที่ดี ตัวอย่างเช่น บริษัทสินเชื่อการเงิน ต้องการความน่าเชื่อถือ จึงควรใช้โทนสีที่สุภาพ ส่วนบริษัทโฆษณา ควรลดความเป็นทางการลง และใส่ความคิดสร้างสรรค์ให้มากขึ้น หรือธุรกิจขายของออนไลน์ ควรวางรูปแบบให้สะอาดตา และดูทันสมัย อาจจะเพิ่มรูปภาพที่สื่อถึงสินค้าของคุณลงไปบนนามบัตรด้วย เป็นต้น ซึ่งการออกแบบนามบัตร ต้องคำนึงถึงจุดเด่นของธุรกิจที่คุณต้องการสื่อสารไปถึงผู้รับให้มากที่สุด
การออกแบบที่เรียบง่าย น้อยแต่มาก
การออกแบบที่เรียบง่าย น้อยแต่มาก ยังคงเป็นเทรนด์การออกแบบนามบัตรที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงเป็นกระแสหลัก และไม่เคยตกยุคอีกด้วย ซึ่งการออกแบบในลักษณะนี้จะเน้นความสะอาดตา คุมโทนสีอย่างเหมาะสม เลือกจัดวางทุกองค์ประกอบบนหน้านามบัตรให้อ่านง่าย และเน้นความเป็นมิตรต่อผู้อ่านมากที่สุด การทำนามบัตรที่เรียบง่าย แต่โดดเด่น จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสร้างความประทับใจให้กับผู้ติดต่อได้เป็นอย่างดี
ใส่ข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วน
การทำนามบัตร สิ่งสำคัญที่สุด คือ ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตัวคุณที่จะระบุอยู่บนนามบัตร โดยข้อมูลที่ควรมี คือ โลโก้บริษัทหรือแบนด์, ชื่อ และตำแหน่งของเจ้าของนามบัตร, ช่องทางการติดต่อ เช่น ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล และเว็บไซต์ นอกจากนั้นก็ควรที่จะมี QR Code เพื่อให้คู่ค้าธุรกิจสามารถสแกนดูข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทั้งนี้ข้อมูลบนนามบัตรของคุณ ควรมีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษหรือภาษาของประเทศที่คุณต้องทำการติดต่อ เพื่อความสะดวกในการประสานงาน เพิ่มความประทับใจให้เจ้าของภาษาได้ด้วย
เลือกตัวอักษรให้เหมาะสม
การเลือกใช้ตัวอักษรหรือฟอนต์บนนามบัตร ควรเป็นฟอนต์ที่อ่านง่าย ถึงแม้จะถูกย่อให้มีขนาดเล็กก็ยังคงรายละเอียดได้อย่างชัดเจน มีลักษณะเรียบง่าย และดูเป็นมืออาชีพ ไม่ใช้ตัวอักษรที่มีลูกเล่นแปลกตาเยอะ ๆ จนรกหน้านามบัตร นอกจากนี้การเลือกฟอนต์มาทำนามบัตรก็ช่วยสื่อถึงภาพลักษณ์ธุรกิจของเราได้อีกด้วย เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับความสวยความงามหรือธรรมชาติ ควรเลือกฟอนต์ตัวบาง ดูนุ่มนวล และพลิ้วไหว ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวกับไอที การสื่อสารยุคใหม่ ควรเลือกใช้ฟอนต์ตัวหนาที่ดูแข็งแกร่ง และเต็มไปด้วยพลัง เป็นต้น
เลือกกระดาษที่แข็งแรง และเข้ากับคอนเซปต์
การทำนามบัตร นอกจากการออกแบบ และการใส่ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ แล้วนั้น การเลือกกระดาษในการทำนามบัตร ก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ เนื่องจากกระดาษที่ใช้พิมพ์นามบัตรมีมากมายหลากหลาย ทั้งผิวสัมผัสเรียบลื่นไปจนถึงผิวสัมผัสหยาบที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ซึ่งการเลือกกระดาษ ต้องดูด้วยว่าธุรกิจของเราเป็นแบบไหน เพื่อให้เลือกใช้กระดาษได้เหมาะกับคอนเซปต์ของนามบัตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับนามบัตรของเราได้เป็นอย่างดี
สรุป
ถ้าคุณต้องการจะออกแบบนามบัตร ให้สวยหรู ดูดีมีสไตล์ ก็สามารถนำวิธีการออกแบบนามบัตรที่เราได้นำมาฝากกันนี้ ไปลองปรับใช้กันดูค่ะ เพื่อให้ได้นามบัตรที่ดี มีคุณภาพค่ะ ดังนั้น สำหรับท่านใดที่สนใจอยากทำนามบัตร สามารถติดต่อ บริษัท เอ็ม.ไอ.ดับบลิว.กรุ๊ป จำกัด ของเราได้เลยค่ะ เรายินดีให้บริการออกแบบ และรับผลิตนามบัตร ทุกรูปแบบ ทุกประเภท โดยไม่จำกัดจำนวนขั้นต่ำ เราพร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำ และให้บริการงานพิมพ์คุณภาพด้วยเครื่องพิมพ์มาตรฐานระดับโลก สีสวย คมชัด ไม่ซีดจาง ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัย พร้อมด้วยบริการที่รวดเร็วและตรงต่อเวลา
เกี่ยวกับ MIW Group
บริษัท เอ็ม.ไอ.ดับบลิว. กรุ๊ป จำกัด รับผลิตสื่อ สิ่งพิมพ์ครบวงจรทั้ง Digital & Offset ด้วยคุณภาพที่ได้รับมาตรฐานระดับเหรียญทอง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานมากกว่า 28 ปี ซึ่งเรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาทักษะด้านการพิมพ์ และรักษามาตรฐานมาโดยตลอด มั่นใจได้ว่าเรามีความพร้อมในการผลิตงานพิมพ์ที่มีคุณภาพส่งมอบให้กับลูกค้าอย่างแน่นอน
